วิธีการเขียนเรซูเม่ให้สวยปังและเข้าใจง่ายในการสมัครงาน

หางาน

สำหรับน้องๆ จบใหม่แล้ว สิ่งที่สำคัญในการใช้สมัครงานหรือแม้แต่การทิ้งประวัติไว้ในในหน้าเว็บไซต์จัดหางานก็คือ Resume โดยเรซูเม่ คือ เอกสารที่สร้างขึ้นโดยบุคคลหนึ่ง เพื่อนำเสนอประวัติส่วนบุคคลทางด้านการทำงานของคนนั้น ๆ โดยแสดงถึงความสามารถในการทำงาน ความสามารถพิเศษ และรางวัลที่ได้รับ มีการใช้งานเรซูเมแตกต่างกันไปหลากหลายวิธี ในประเทศไทยนิยมใช้เรซูเมเพื่อการสมัครงานกันอย่างแพร่หลาย เรซูเมโดยทั่วไปจะเป็นเอกสาร “สรุป” ประวัติของบุคคลนั้น ๆ อยู่ภายใน 1 หน้ากระดาษ โดยเน้นที่ประสบการณ์ทำงาน และการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานที่สมัคร เรซูเมนั้นแทบจะเป็นเอกสารชิ้นแรก ๆ ที่นายจ้างจะใช้เพื่อการคัดเลือกพนักงานใหม่ หรือคัดเลือกบุคลากรเพื่อการสัมภาษณ์ก่อนการจ้างงาน ดังนั้นวันนี้เรามาสร้างความประทับใจชนิดที่ว่าเห็นแค่เรซูเม่เราแล้วก็อยากเรียกมาสัมภาษณ์งานกันเลยดีกว่า 

วิธีการเขียนเรซูเม่ให้น่าสนใจ

  1. ตั้ง Format ก่อนเขียน 

ก่อนที่เจะเริ่มเขียน เราสามารถหาแรงบันดาลใจจากตัวอย่างเรซูเม่ของคนอื่น เพื่อนำมาเป็นต้นแบบในการจัดทำเรซูเม่ของตัวเอง การมองหา Template ตั้งต้นเป็นอีกส่วนสำคัญที่จะช่วยให้การเล่าเรื่องใน Resume ของเราเป็นไปได้ง่ายขึ้น เพราะการขึ้นต้นจากกระดาษเปล่าที่ไม่มีอะไรเลย จะเป็นอะไรที่เคว้งคว้างมาสำหรับในตอนเริ่ม ซึ่งสำหรับคนที่ยังเริ่มต้นไม่ถูก สามารถเลือกได้ก่อนว่า เราอยากจะใช้ Template แบบไหนในการเล่าเรื่องของเรา

  1. ใช้หลักการ 3W 
  • What did you do? ตอบให้ได้ว่าในอดีตนั้นเคยทำอะไรมาบ้าง ถ้ามีประสบการณ์ ให้ใช้ Project จากที่ทำงานเก่าๆ มาได้เลย แต่ถ้าเป็นแบบจบใหม่ สามารถเลือกใช้จาก Project ในช่วงฝึกงานแทนได้ ถ้าไม่มีอีกอาจต้องเอาในสมัยเรียนมาใช้แทน
  • Why did you do it? ตอบให้ได้ว่าทำไมเราถึงเลือกทำ Project นี้ ที่ไม่ใช่บอกว่าได้รับมอบหมาย แต่ต้องเล็งเห็นถึงคุณค่าอะไรบางอย่างถึงเลือกหัวข้อนี้มาในการทำ 
  • What was the result? ตอบให้ได้ว่าผลออกมาเป็นยังไง ในส่วนนี้แทบจะสำคัญและน่าสนใจที่สุด เพราะผู้บริหารยอมอยากเห็นผลลัพธ์ที่ออกมาจากงานของเรา เช่น จากโปรเจคนี้ ช่วยให้ยอดขายโตได้ถึง 20% หรือเป็นการบอกว่าสิ่งที่เราทำนั้นสร้างความเปลี่ยนแปลงให้องค์กรที่เราเคยอยู่ดีขึ้นได้อย่างไรบ้าง
  1. ประสบการณ์ 

ประสบการณ์ในการทำงานนั้นเป็นส่วนที่สำคัญแทบจะที่สุดในการสมัครงาน เพราะผู้รับสมัครส่วนมากจะเริ่มพิจารณาส่วนนี้เป็นส่วนแรกว่าผู้สมัครนั้นเหมาะสมกับต่ำหน่งงานที่เปิดรับอยู่หรือไม่ แต่สำหรับน้องๆนักศึกษาจบใหม่ที่อาจจะยังไม่มีประสบการณ์ทำงานโดยตรง สามารถใส่ประสบการณ์ด้านการฝึกงาน รวมไปทั้งงาน Part-time หรือกิจกรรมอื่นๆที่เข้าร่วมในมหาวิทยาลัย สิ่งสำคัญนอกจากรายละเอียดของงานที่เราได้รับผิดชอบแล้วนั้น อย่าลืมระบุบระยะเวลา วัน เดือน ปี รวมทั้งชื่อบริษัทของสถานที่ว่าจ้างนั้นๆ ด้วย

  1. กระชับไม่ต้องเยอะ 

ถ้าได้สัก 1 หน้ากระดาษ A4 ก็จะยิ่งดี ถ้าเป็นเจ้าของหรือผู้บริหารถึงกับต้องลงมามีส่วนร่วมในการรับเองจากการสกรีน Resume ก่อนสักรอบ คงไม่สนใจ Resume ที่ทำมาหลายๆ หน้า เพราะเสียเวลาพวกเขาเป็นอย่างมาก ดังนั้นการใส่เฉพาะประสบการณ์งานโดดเด่น งานสำคัญ ที่เรียกร้องความสนใจได้ไม่น้อย

  1. ปรับเนื้อหาให้เหมาะสมกับงาน 

อย่าใช้ Resume เดิมกับทุกๆ งาน หรือกับทุกๆ ตำแหน่ง เพราะแต่ละที่มีสิ่งที่ต้องการจากเราไม่เหมือนกัน แม้ว่าจะเป็นงานตำแหน่งเดียวกันก็ตาม ดังนั้นก่อนเริ่มเขียน Resume นั้น สิ่งแรกที่ควรทำคือ การกาง Job Description ของแต่ละงานที่เราต้องการสมัครมาดูก่อน จากนั้นค่อยปรับ Resume ให้เนื้อหาในส่วนของ ประสบการณ์ ทักษะความสามารถ หรือพวก Certification ต่างๆ ตรงกับเนื้อหาของงานนั้นๆ

และนี่ก็เป็นเทคนิคการเขียนเรซูเม่ให้มีความน่าสนใจ และไม่ยืดยาวจนน่าเบื่อ สิ่งที่สำคัญอย่างสุดท้ายเลยก็คือการตรวจดูคำผิดของเรซูเม่ จะเป้นส่วนที่ช่วยให้คุณดูเป็นคนรอบคอบและใส่ใจในการทำงานมากยิ่งขึ้นนั่นเอง 

About the Author

You may also like these