ทริคน่ารู้ก่อนซื้อใหม่ วิธีเลือกเครื่องซักผ้าฝาหน้าที่เหมาะกับครอบครัวคุณ

                อย่างที่รู้ ๆ กันว่าการใช้เครื่องซักผ้าช่วยอำนวยความสะดวกให้ชีวิตประจำวันของเราได้มากแค่ไหน และหากได้ลองศึกษาข้อมูลกันมาบ้างแล้ว ก็คงจะพบว่าเครื่องซักผ้านั้นมีหลายแบบ แต่ถ้าต้องให้คะแนนในเรื่องของความสะอาดและการประหยัดพลังงาน คงต้องยกให้เครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าไปเต็ม ๆ ด้วยฟังก์ชันการทำงานที่ตอบโจทย์ทุกเนื้อผ้า ทั้งยังถูกออกแบบมาให้สามารถตั้งอุณหภูมิน้ำตามที่ต้องการได้ จึงทำให้สามารถละลายผงซักฟอกได้ดียิ่งขึ้น ถึงแม้จะใช้เวลาในการซักผ้าแต่ละครั้งนานกว่าเครื่องซักผ้าประเภทอื่น แต่ก็ถือว่าให้ผลลัพธ์ในการซักที่สะอาดอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ประทับใจในเครื่องประเภทนี้ ก่อนซื้อเครื่องใหม่คราวหน้าลองนำวิธีเลือกเครื่องซักผ้าฝาหน้าที่เรารวบรวมมาไปพิจารณา แล้วคุณจะได้เครื่องซักผ้าเครื่องใหม่ที่ถูกใจกว่าเดิม

4 ข้อสำคัญในการเลือกเครื่องซักผ้าฝาหน้า

                ก่อนเลือกซื้อเครื่องซักผ้าฝาหน้าสักเครื่อง ผู้ใช้งานควรเตรียมข้อมูลไว้ก่อน ไม่ว่าจะเป็น รุ่น ยี่ห้อ แบบ สีหรืองบประมาณราคาที่ต้องการ ซึ่งทุกคนก็คงมีความคาดหวังว่าอยากใช้เครื่องซักผ้าให้ได้นานและคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป เรื่องเหล่านี้ไม่ยากแค่ทำตามวิธีเหล่านี้

1. ดูว่าเครื่องซักผ้าฝาหน้าผลิตจากวัสดุอะไร

                เรื่องวัสดุที่ใช้ผลิตถังซักผ้านั้นก็มีความสำคัญนะ ซึ่งแต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติในการใช้งานและความทนทานที่แตกต่างกันไป ลองดูว่าวัสดุแต่ละชนิดมีข้อดีและข้อเสียอย่างไร

พลาสติก เครื่องซักผ้าที่ใช้วัสดุชนิดนี้จะมีน้ำหนักเครื่องที่เบา และมีสีสันให้เลือกได้หลากหลาย ตัวถังพลาสติกจะทนทานต่อการกัดกร่อน แต่อาจมีข้อเสียเรื่องความเปราะบางเมื่อต้องเจอกับอุณหภูมิสูง หรือถูกกระแทกแรง ๆ ก็จะเกิดความเสียหายได้

โลหะ เช่น เหล็กเคลือบกันสนิม จะสร้างความแข็งแรงทนทานให้กับถังซักผ้า และไม่เป็นสนิมง่าย แต่เครื่องส่วนใหญ่จะมีน้ำหนักมากและขนาดใหญ่ ซึ่งปัจจุบันก็ไม่ค่อยมีการใช้วัสดุประเภทนี้ผลิตกันแล้ว

ไฟเบอร์หรือเรซิน วัสดุประเภทนี้ก็จะช่วยให้ถังซักผ้ามีความทนทาน หมดปัญหาการผุกร่อนและบอกลาสนิมตัวร้ายไปได้อย่างสบายใจ ตัวเครื่องสามารถติดตั้งได้แม้ในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง

สเตนเลส นับว่าเป็นวัสดุที่ทนทานเป็นอย่างมาก เป็นวิธีเลือกเครื่องซักผ้าฝาหน้าที่เหมาะสม แต่อาจมีค่าใช้จ่ายในการซื้อสูงกว่าประเภทอื่น ๆ ซึ่งก็ได้ในส่วนของข้อดีอยู่มากเช่นกัน ถังซักผ้าที่ผลิตจากวัสดุประเภทนี้ตัวถังจะไม่เป็นสนิมและไม่มีเชื้อรา เมื่อใช้งานแล้วจะช่วยลดปัญหาความอับชื้นในเสื้อผ้าได้ด้วย

2. ตรวจดูตำแหน่งวางและพื้นที่ภายในบ้านก่อนเลือก

                สำรวจว่าที่อยู่อาศัยของเรามีพื้นที่กว้างพอสำหรับวางเครื่องซักผ้ามากแค่ไหน โดยทั่วไปพื้นที่ขนาด 48 – 60 เซนติเมตร จะเหมาะสำหรับเครื่องซักผ้าฝาหน้า นับว่าเป็นเรื่องที่เราควรพิจารณาเป็นอันดับแรก ๆ เลย ทางที่ดีควรกำหนดไปเลยว่าจะวางพื้นที่ไหน แล้วจดขนาดพื้นที่ติดไปด้วยเมื่อต้องเลือกซื้อ

3. ดูจำนวนรอบปั่นหมาดของเครื่องซักผ้า

                รอบการทำงานปั่นหมาดยิ่งสูง ก็ยิ่งช่วยให้ผ้าแห้งไว แต่เมื่อใช้งานก็ต้องระมัดระวังในเรื่องของเนื้อผ้าที่จะนำมาซักด้วย เพราะรอบปั่นหมาดที่สูง ก็อาจจะทำให้เนื้อผ้าบาง ๆ ยืดและขาดได้ง่าย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วรอบปั่นหมาดที่ดีสำหรับผ้าเนื้อบางจะอยู่ที่ไม่เกิน 700 รอบต่อนาที แต่หากเป็นผ้ายีนส์ ผ้าฝ้าย ผ้าขนสัตว์ ก็อาจจะใช้รอบปั่นหมาดที่สูงกว่าได้ แต่ทั้งนี้การเลือกซื้อเครื่องซักผ้าที่มีรอบปั่นหมาดสูงมาใช้งานจะเกิดข้อเสียเกี่ยวกับเรื่องเสียงของเครื่อง ซึ่งจะดังและจะกินไฟกว่าปกติ

4. ดูความง่ายในการใช้งาน

                ถ้าเป็นเครื่องซักผ้าฝาหน้ารุ่นใหม่ ๆ ส่วนใหญ่จะออกแบบมาในรูปแบบถังเดียวเพื่อไม่ให้เปลืองพื้นที่การใช้งาน ซึ่งนั่นก็หมายความว่ากดเพียงปุ่มเดียวเครื่องก็สามารถทำงานได้เลยทันที โดยไม่จำเป็นต้องรอเติมน้ำเข้าออก หรือย้ายผ้าไปยังถังปั่นแห้งแบบประเภทที่ออกแบบมาให้ใช้งานสองถัง ดังนั้นก็ควรคำนึงถึงเรื่องความสะดวกสบายของผู้ใช้งานไว้ด้วย

                สำหรับบ้านไหนที่มีจำนวนสมาชิกในครอบครัวไม่เยอะ และไม่ค่อยมีเวลาทำงานบ้าน เครื่องซักผ้าฝาหน้าถือเป็นอุปกรณ์ที่ตอบโจทย์ เพราะเมื่อซักออกมาแล้วได้ผ้าสะอาด ไม่ค่อยยับ ไม่ต้องรอผ้าแห้งหรือเสียเวลารีดผ้านาน เหมาะกับคนที่มีไลฟ์สไตล์ในการทำงานนอกบ้านมากกว่า ก็ไม่ควรพลาดจากวิธีเลือกเครื่องซักผ้าฝาหน้านี้ ถึงแม้จะมีราคาที่สูงแต่ก็ถือว่าได้ความคุ้มค่าและประสิทธิภาพที่ดีกว่ามาทดแทน